Search

อยากทำจมูกแบบ Open ไปเลยจะได้ทีเดียวจบ...
หมอ...

  • Share this:

อยากทำจมูกแบบ Open ไปเลยจะได้ทีเดียวจบ...
หมอได้รับการปรึกษาแบบนี้ค่อนข้างบ่อยเเละทุกครั้งที่ได้รับการ request แบบนี้ก็จะถามคนไข้ว่าทำไมถึงมีความเชื่อแบบนั้น และคำตอบก็มักจะมาจากการรีวิวเคสที่โฆษณาทางโซเชี่ยล

ในความเป็นจริงทางการแพทย์ การทำจมูกแบบ Open หรือที่เรียกว่า Open Rhinoplasty เป็นเทคนิคที่ทำกันมาหลายสิบปีแล้ว และเราก็รู้ดีว่ามันเป็นเทคนิคที่มีข้อดีมากเพราะเป็นการกรีดเนื้อของผิวหนังเพื่อเปิดออกดูโครงสร้างของจมูกทั้งหมด ซึ่งในกรณีที่เราต้องแก้ไขโครงสร้างของจมูก วิธีนี้ก็เป็นเทคนิคที่ได้ประโยชน์

ประเด็นคือการเสริมจมูกส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องทำแบบ Open ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีได้ เพราะเราไม่ได้ต้องการแก้โครงสร้างเดิม โดยเฉพาะการเสริมดั้งและปลายด้วยซิลิโคน แบบนี้ยิ่งไม่จำเป็นต้องทำ Open เลย

แล้วการทำ Open ไปเลยมันไม่ดีอย่างไร ในเมื่อการเปิดเนื้อปลายจมูกก็ทำให้เห็นโครงสร้างกระดูกอ่อนปลายจมูกทั้งหมด?

คำตอบคือโครงสร้างของจมูกเราบอบบางกว่าที่เราคิดมาก

กระดูกอ่อนที่ประกอบกันเป็นทรงจมูกนั้น จะมีขนาดที่เล็กและบอบบางมาก และมีรูปทรงที่เฉพาะ การจะแก้ไขโครงสร้างจมูก ในทางการแพทย์หมายถึงการไปปรับปรุง เสริมแต่ง กระดูกอ่อนปลายจมูกของดั้งเดิมให้มีทรงที่ดีขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องมีความชำนาญมาก เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความเสียหายกับโครงสร้างของจมูกได้

ยิ่งไปกว่านั้นการเปิดเนื้อปลายจมูกและการเย็บกลับแบบเดิมแค่นี้ก็ไม่ง่ายแล้ว เพราะหากเย็บผิดไปแค่นิดเดียวก็จะเกิดแผลเป็นและการบิดเบี้ยวของรูจมูกได้แบบง่ายๆเลย

ซึ่งตรงนี้เป็นที่มาของเคสปัญหาที่ทำ OPEN แล้วเกิดความเสียหายที่หลายคนอาจจะไม่รู้เลย เพราะเคสเหล่านี้จะไม่กล้าโวยวายในโซเชี่ยลเพราะเกรงความผิดตามพรบ คอม แต่หมอศัลยกรรมตกแต่งด้วยกันจะรู้ว่าเคสเสียหายเหล่านี้มีไม่น้อยเลย

ทั้งเคสเสียหายที่ผ่าตัดมาจากเกาหลีหรือเคสที่มาจากคลินิกที่โด่งดังในโซเชี่ยล

หมอเองในฐานะที่ทำการเสริมจมูกและแก้ไขจมูกด้วยเทคนิคทั้ง Close และ Open จึงพยายามจะให้ข้อมูลข้อดีข้อเสียของการทำจมูกด้วยเทคนิคทั้งสองแบบอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้คนไข้เข้าใจว่าการทำจมูกให้สวย ไม่จำเป็นต้องทำ Open เสมอไป หรือต้องจ่ายแพงกับเทคนิคที่โฆษณาให้ดูว่าดีเกินจำเป็น ว่าต้องทำแบบนู้น แบบนี้เท่านั้น จึงจะได้ผลออกมาดีทำทีเดียวจบจนทำให้เกิดความเชื่อว่าต้องจ่ายแพง ต้อง open ต้องใช้กระดูกซี่โครงเท่านั้นจึงจะดีและจบเป็นต้น

เพราะทางการแพทย์ไม่สามารถมีหมอคนไหนยืนยันได้ 100% ว่าทำแล้วต้องออกมาดี ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน การผ่าตัดทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยง เพียงแค่จะน้อยหรือมากแค่ไหนเท่านั้นเอง ดังนั้นก่อนคิดจะทำศัลยกรรมควรจะศึกษาและพูดคุยซักถามหมอที่จะผ่าตัดให้ละเอียดก่อนเสมอ

#เนื่องจากการระบาดของโควิดทำให้หมอยังงดการออกตรวจคลินิกพิเศษที่โรงพยาบาลรามา หากต้องการปรึกษาด้านศัลยกรรม ขอให้โทรนัดที่ 1270 โรงพยาบาลพระราม 9 ก่อนนะครับในช่วงนี้


Tags:

About author
เพจด้านการแพทย์ที่มุ่งให้ความรู้และช่วยเหลือผู้ที่ต้องการข้อมูลทางศัลยกรรมตกแต่งที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและเชื่อถือได้โดยอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะ ซึ่งมีประสบการณ์การศึกษาต่อและดูแลรักษาคนไข้ทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามาเกือบยี่สิบปี ปัจจุบันเป็นสมาชิกของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทยและสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ ติดตามอ่านบทความที่ผมเขียนได้ที่ http://drsurawejrama.wordpress.com/ นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม ศัลยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะปัจจุบันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี รับผิดชอบเกี่ยวกับการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์และฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งรวมถึงการให้บริการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาความผิดปกติบริเวณใบหน้าและศัลยกรรมตกแต่งทุกชนิดรวมถึงงานวิจัยที่มุ่งพัฒนามาตรฐานการดูแลผู้ป่วยของประเทศไทย จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและศึกษาต่อเฉพาะทางด้านศัลยกรรมทั่วไปที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และด้านศัลยกรรมตกแต่งที่โรงพยาบาลรามาธิบดีหลังจากบรรจุเป็นอาจารย์แล้วได้ไปศึกษาต่อด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าที่ Chang Gung Memorial Hospital ประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียและเป็นที่หมอเกาหลีมาดูงานการผ่าตัดใบหน้าจำนวนมาก หลังจากศึกษาต่อที่ไต้หวันเป็นเวลาหนึ่งปีก็ได้ศึกษาต่อเพิ่มเติมที่หน่วยศัลยกรรมตกแต่ง University of Washington, Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยด้านแพทยศาสตร์ระดับ Top10 ของอเมริกาและมีความโดดเด่นด้านการวิจัยซึ่งหลังจากนายแพทย์สุรเวชได้ศึกษาต่อหนึ่งปีก็ได้รับทุน fellowship จาก National Institutes of Health(NIH) ของอเมริกาให้ทำงานด้านการวิจัยด้านสเตมเซลและการรักษาแผลเป็นอีกเป็นเวลาสามปีมีผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับโลกและได้รับการชักชวนจาก Professor หลายท่านให้ทำงานต่อที่อเมริกาแต่เนื่องจากความต้องการจะทำงานเพื่อช่วยเหลือคนไทยจึงได้ปฎิเสธข้อเสนอเหล่านั้นไป ปี 2554 นายแพทย์สุรเวชได้เดินทางกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลรามาธิบดีและได้พัฒนาโครงการวิจัยเกี่ยวสเตมเซลจากไขมันการวิจัยเพื่อป้องกันแผลเบาหวานและการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับศัลยกรรมตกแต่งผ่านสื่อของRama Channel, หนังสือพิมพ์เดลินิวส์, มติชน, นิตยสาร Cosmetics, นิตยสาร Allure, นิตยสารHug(7-11) นอกจากนั้นยังรักษาผู้ป่วยทุกระดับชั้นเช่นลุงกุ๋ยผู้ป่วยที่มีใบหน้าพิการไม่สามารถหลับตาและทานอาหารได้ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและเป็นได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้และเรื่องเด่นเย็นนี้ทางไทยทีวีสีช่อง3 ปัจจุบันนี้นายแพทย์สุรเวชให้บริการตรวจคนไข้ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นหลักและมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการในโรงพยาบาลของรัฐให้เป็นที่พึ่งพาแก่ประชาชนทุกคนอย่างดีที่สุดโดยเสียค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุดและต้องการที่จะให้ประชาชนและผู้ป่วยได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับศัลยกรรมตกแต่งเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจก่อนเข้ารับการรักษาโดยไม่ถูกบิดเบือนจากการโฆษณาและการตลาด ติดตามและพูดคุยกับนายแพทย์สุรเวชได้ที่ Website : http://drsurawejrama.wordpress.com/ Email : [email protected] FB page : https://www.facebook.com/drsurawejrama
Page for everyone who want straight talk about Cosmetic Surgery: A Guide for making informed decision and avoid useless treatments by Dr Surawej Numhom
View all posts